หยุดความเชื่อแบบนี้! ไฟฉุกเฉิน ควรใช้แค่ตอนฉุกเฉิน ไม่ใช่ใช้ทุกกรณี
ความเชื่อผิด ๆ ที่เรามักจำฝังใจกันมาเสมอ ๆ คือการใช้ไฟฉุกเฉินในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้โดยไม่ผิด ซึ่งในความจริงแล้ว ความเชื่อแบบนั้นเป็นความเชื่อที่ผิดวัตถุประสงค์ของการใช้งานไฟฉุกเฉิน อาจส่งผลร้ายอันตรายถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุรุนแรงถึงชีวิตได้!
ไฟฉุกเฉิน หรือ ไฟผ่าหมาก (hazard lights) คือไฟที่เป็นรูปสามเหลี่ยมสีแดง ๆ ในรถยนต์ เมื่อเปิดแล้วจะเป็นไฟกระพริบที่ไฟหน้าและท้ายรถพร้อม ๆ กัน ไฟฉุกเฉินมีเอาไว้เปิดเมื่อยามฉุกเฉินบนท้องถนนเท่านั้น เช่น รถเสีย หรือ เมื่อต้องจอดรถยนต์ฉุกเฉินข้างทาง เป็นต้น เราควรเรียนรู้การใช้ไฟฉุกเฉินที่ถูกต้องและถูกกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนและลดอุบัติเหตุร้ายแรง อันตรายถึงชีวิต
2 ข้อหลักที่ไฟฉุกเฉินมักถูกใช้แบบผิด ๆ
- 1. ไฟฉุกเฉินไม่ควรใช้เปิดเมื่อขับรถข้ามทางแยก ผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าถ้าเราเปิดไฟฉุกเฉินก่อนข้ามทางแยก อาจช่วยให้ผู้ขับขี่ท่านอื่นเข้าใจว่าเราต้องการขับรถตรงไป ไม่เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา แต่ในความจริงผู้ขับขี่ฝั่งซ้ายหรือขวาของเรา อาจเห็นไฟแค่ข้างเดียว!
จากภาพข้างต้นจะอธิบายได้ชัดเจนมาก ๆ สมมุติว่ารถของเราคือ คันสีแดง เราต้องการจะตรงไป หากเราเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อข้ามผ่านทางแยก จะทำให้รถสีเทา มองเห็นไฟเลี้ยวแค่เพียงฝั่งเดียวคือฝั่งซ้าย ซึ่งนั่นหมายความว่ารถสีเทาจะเข้าใจว่าเราจะเลี้ยวซ้าย จึงไม่ทำการหยุดรถ เมื่อรถสีเทาไม่หยุดรถ ก็จะเกิดการชนกันนั่นเอง อุบัติเหตุแบบนี้บางกรณีอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตของผู้ขับขี่ทั้ง 2 คันเลยที่เดียว หากขับด้วยความเร็ว
แนวทางการปฏิบัติตน หากต้องการขับรถข้ามทางแยก ผู้ขับขี่ควรชะลอรถยนต์ของท่านก่อนข้ามทางแยก มองซ้าย มองขวา เพื่อดูว่ารถฝั่งตรงข้ามอยู่ในระยะที่ห่างพอสมควรก็ขับข้ามทางแยกไปเลย โดยไม่ต้องเปิดสัญญาณใด ๆ
- 2. เปิดไฟฉุกเฉินเมื่อฝนตกหนัก
ตามกฎหมาย พ.ร.บ. จราจร มาตรา 9 และกฎกระทรวงข้อ 11 กฎหมายกำหนดให้ใช้ไฟฉุกเฉิน เฉพาะกรณีรถเสียที่จอดอยู่กับที่เท่านั้น
ซึ่งข้อกฎหมายนี้ครอบคลุมถึงการใช้ไฟฉุกเฉินเมื่อฝนตกหนักเช่นกัน ในกรณีที่ฝนตกหนักการที่ผู้ขับขี่เปิดไฟฉุกเฉินขณะขับขี่บนท้องถนนนั้น ไฟเลี้ยวจะไม่ทำงาน ทำให้รถที่ขับตามหลัง หรือ ขับข้างๆ ไม่ทราบว่าเราจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก นอกจากนี้แล้ว หากมีรถเสียขึ้นมาจริงๆ และรถคันอื่นๆ เปิดไฟฉุกเฉินกันหมด อาจทำให้คันที่ตามมาเข้าใจผิดว่า ข้างหน้ามีการจราจรติดขัด ทำให้จอดรถตามๆ กัน
แนวทางการปฏิบัติตน เมื่อฝนตกหนัก ควรหลีกเลี่ยงการเปิดไฟฉุกเฉินระหว่างขับขี่ ควรเปลี่ยนมาขับขี่ด้วยความเร็วต่ำและเปิดไฟหน้าปกติแทน รวมไปถึงไม่ควรเปลี่ยนเลนหรือขับชิดคันหน้าเกินไปหากไม่จำเป็น
ในกรณีที่ผู้ขับขี่เจอกับสภาพอากาศที่แย่มาก ๆ มองไม่เห็นรถยนต์หรือไฟรถยนต์ของคันข้างหน้าเลย เราสามารถเลือกใช้ไฟตัดหมอกได้เช่นกัน เพื่อให้ผู้ขับขี่ท่านอื่นบนท้องถนนเห็นคันของเราจากระยะไกลได้ดีขึ้น เมื่อสภาพอากาศดีขึ้นแล้ว ควรปิดไฟตัดหมอกทันที เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแยงตาผู้ขับขี่รถยนต์คันอื่น เท่านั้นเราก็สามารถใช้ไฟฉุกเฉินได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น